Page 13 - excise APRIL e-book
P. 13
EXCISE Newsletter // 13
แสดงวิธีการป้องกันตนเองให้เด็ก และเพื่อนได้เข้าใจ
การเป็นตัวอย่างที่ดีในการป้องกันตนเอง เป็นวิธีการที่ดี
ที่สุดในการป้องกันเด็กๆ ให้ห่างไกลโควิด-19 ด้วยเช่นกัน เช่น
สอนการล้างมืออย่างถูกวิธี และให้มีการล้างมือบ่อยๆ เป็น
ประจ�าเมื่อจับต้องสิ่งของสาธารณะ โดยให้เด็กมีส่วนร่วมปฏิบัติ
ไปพร้อมกับผู้ใหญ่ จะท�าให้เขาได้ซึมซับสนุกสนานกับการเรียนรู้
ในชีวิตประจ�าวัน แม้แต่การสอนให้ใช้ข้อศอกป้องปากเวลาไอ
หรือจาม และบอกกล่าวให้ระวังตัวอย่าเข้าใกล้ผู้ที่มีอาการ
เหล่านั้น และขอให้เด็กๆ บอกกับผู้ใหญ่ทันที ที่พวกเขาเริ่มรู้สึก
มีไข้ ไอ จาม หรือหายใจล�าบาก ทั้งจากที่โรงเรียนและที่บ้าน การกลั่นแกล้งเป็นสิ่งที่ผิดเสมอ
เราควรช่วยเหลือและให้ก�าลังใจซึ่งกันมากกว่า
สร้างเสริมความมั่นใจ ให้เด็กคลายความกังวล
ส่งต่อเรื่องราวความเสียสละ
เนื่องจากข่าวการแพร่ระบาดในตอนนี้ สื่อสารให้เห็นถึง
สถานการณ์ทั่วโลกที่หนักขึ้น รวมถึงในหลายๆ พื้นที่ประเทศไทย ของผู้ให้ความช่วยเหลือสังคม
อาจท�าให้เด็กๆ เกิดภาวะเครียดไม่ต่างจากผู้ใหญ่ ที่ได้รับสื่อช่องทาง การให้เด็กรับรู้ถึงความเสียสละเพื่อคนทั้งประเทศ
ต่างๆ ทั้งทางออนไลน์และโทรทัศน์ และเข้าใจว่าตนเองก�าลัง โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ และภาคส่วนต่างๆ ที่ระดม
ตกอยู่ในความอันตราย พ่อแม่มีส่วนช่วยให้เด็กๆ คลาย ความคิดสติปัญญา และความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการรักษา
ความกังวลใจรับมือกับความเครียด ด้วยการสนับสนุนให้เล่น พยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ท�าให้เด็กๆ และคนทุกคนได้รับ
เพื่อผ่อนคลายตามกิจวัตรของเขาให้เป็นไปอย่างปกติ หรือ ความปลอดภัย เพราะนอกจากจะท�าให้เกิดความเห็นอกเห็นใจ
สร้างสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ชวนกันจัดแต่งบ้านหรือโซนที่จะ ผู้ที่ปฏิบัติงานแล้ว ยังช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัย และยังช่วยปลอบ
ท�าให้เด็กๆ ใช้เวลาไปกับความสุขในแบบที่เป็น หรือชวนกัน ประโลมจิตใจของพวกเขา ในช่วงเวลานี้ได้เป็นอย่างดี
ออกก�าลังกาย หากิจกรรมสนุกท�าร่วมกัน และช่วยเหลือยาม
เด็กๆ ติดขัดในการเรียนหนังสือผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้ พ่อแม่สตรอง ส่งผลให้เด็กไม่ตื่นตระหนก
พ่อแม่สามารถอธิบายเรื่องตัวช่วยที่จะท�าให้เขาปลอดภัย และ การดูแลตัวเองทางด้านจิตใจของผู้ใหญ่เป็นเรื่องที่ส�าคัญ
ให้ความมั่นใจด้วยการให้ลูกปฏิบัติตัวตามค�าแนะน�าอย่างถูกต้อง ผู้ใหญ่ที่มีสติในการรับข่าวสารและสามารถรับมือได้อย่างดี
จะช่วยให้เด็กๆ ไม่ตื่นตระหนกเกินไป ด้วยเพราะเด็กๆ จะมอง
ตรวจสอบเด็กถูกรังแก หรือไปรังแกผู้อื่นหรือไม่ เห็นรับรู้สัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาของผู้ใหญ่ และส่งผลต่อพฤติกรรม
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ของเด็กด้วยเช่นกัน หากคุณพ่อคุณแม่อยู่ในสภาวะวิตกกังวล ให้
ในเวลานี้ มีการแพร่ระบาดติดเชื้อจากชาวต่างประเทศที่เดินทาง ใช้เวลากับตัวเองและติดต่อกับครอบครัวเพื่อน หรือคนที่เชื่อถือ
เข้าออกประเทศของคนทั่วโลก จึงมีความหวั่นวิตกและหวาดกลัว ไว้วางใจท�าสิ่งต่างๆ ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
ผู้คนในบางประเทศกลุ่มเสี่ยง ท�าให้มีรายงานของการเหยียด
เชื้อชาติและสีผิวขึ้น แม้แต่ในเด็ก จึงอาจเป็นโอกาสที่ท�าให้เด็ก จบการสนทนาด้วยความห่วงใย
บางกลุ่มถูกรังแก หรือเป็นผู้รังแกเพื่อนเสียเอง พ่อแม่ควรหมั่น สถานการณ์ในปัจจุบันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ โรคระบาดที่
ตรวจสอบสภาวะจิตใจของเด็กๆ ว่าตกอยู่ในสภาวะแบบนี้บ้าง ท�าให้โลกปั่นป่วน เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนไป
หรือไม่และควรอธิบายกับเด็กว่า เชื้อไวรัสโควิดไม่ได้มี จากเดิม อาจท�าให้เด็กๆ รู้สึกไม่ปลอดภัย การแสดงความห่วงใย
ความเกี่ยวข้องกับหน้าตา รูปลักษณ์ สีผิว หรือพูดภาษาอะไร ต่อพวกเขาจึงเป็นเรื่องส�าคัญมาก พ่อแม่สามารถวัดระดับ
เพื่อให้เด็กๆ ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ป้องกันไม่ให้เกิดการไปล้อเลียน ความกังวลจากสีหน้า การแสดงออกทางร่างกาย การแสดงออก
ผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย หรือส่งผลกระทบทางจิตใจ หรือ ถึงการห่วงใยและพร้อมเป็นที่พึ่งให้กับพวกเขา จะช่วยบรรเทา
พร้อมรับมือหากตัวเองโดนล้อเลียนเกี่ยวกับไวรัสได้ และ ความกังวลลงไปได้ ท�าให้พวกเขารู้ว่า ผู้ใหญ่ของพวกเขา
ต้องเคียงข้างให้เด็กรู้สึกสบายใจที่จะบอกผู้ใหญ่ที่พวกเขาไว้วางใจ พร้อมจะพูดคุย และรับฟังอย่างเต็มใจอยู่เสมอ หากพวกเขามี
อย่าลืมที่จะเตือนเด็กๆ ว่าทุกคนควรได้รับความปลอดภัย ความกังวลใจใดๆ
ที่มำ : - Unicef Australia: https://www.unicef.org.au/blog/news-and-insights/march-2020/how-to-talk-to-your-children-about-coronavirus
- https://www.aroundonline.com/tips-to-help-kids-to-cope-with-covid-19/